การที่คุณมีหลักที่จะยึดได้แล้วอย่างน้อย ๆ ซัก 1 อัน แล้วค่อย ๆ ขยับขยายออกไป ทำในสิ่งที่คุณยังไม่เคยทำ และยังไม่รู้
แต่ถ้าสิ่งที่จะยึดคุณก็ยังไม่มี แล้วยังไปขยายทำโน้นทำนี้ไปเรื่อย ๆ โดยที่ต้องศึกษาใหม่อยู่ตลอดเวลา
ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยง มากกว่า กระจายความเสี่ยงนะครับ
ยกตัวอย่างเหมือนเราทำอะไรซักอย่าง ที่เราเองก็ยังไม่ชำนาญ แต่มีคนมาบอกว่า “เฮ้ยไปทำอย่างอื่น ด้วยดิ่ว่ะทำแต่อันนี้เด๋วก็ไปไม่รอด” ทั้ง ๆ ที่อันเก่าก็ยังไปไม่รอด แต่ก็จะหาอันใหม่ทำล่ะ แบบนี้ล่ะครับ ที่ผมเรียกว่าการเพิ่มความเสี่ยง ไม่ใช่การกระจายความเสี่ยง
แต่ถ้าคุณทำงานเดิมของคุณจนชำนาญแล้ว แล้วคุณเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง กับงานเดิมที่ทำ ตอนนั้นล่ะครับ ที่คุณควรจะมองหา งานสำรองทำ แล้วค่อย ๆ ใช้เวลาศึกษามัน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงลงไป
คนเรามันเสี่ยงตั้งแต่เกิดมาอยู่แล้วล่ะครับ แม่เบ่งเราออกมา เราก็เสี่ยงล่ะ ว่าสายรกจะพันคอตายไหม หรือออกมาจะสมประกอบไหม ออกมาแล้ว หมอที่ทำคลอดให้เราเค้าจะทำดีไหม แม่ของเราจะตกเลือดตายไหม
พอโตมาหน่อย เริ่มขับรถได้ ก็เสียงอีก รถที่เราขับมันปลอดภัยไหม เพื่อนร่วมทางมันเมาแล้วขับมาหรือปล่าว
เห็นไหมครับเราเจอกับความเสี่ยงแทบทุกวัน ที่เขียนมานี้ไม่ใช่เขียนให้กลัวนะครับ แต่เขียนให้รู้จักกับความเสี่ยง
เพราะเห็นบางคน กลัวโน้นกลัวนี้ไปหมด ไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรเลย ผมเลยบอกว่า แค่เราหายใจเราก็เสี่ยงแล้วครับ เพราะฉนั้นอยากทำอะไรทำเลย อย่ากลัว เราประเมิณได้ว่าเราควบคุมมันได้แค่ไหน จุดไหนที่เรารับมือได้ คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ แล้วลุยเลยครับ